กระบวนทรรศน์ด้านปรัชญาในมุมของโหราศาสตร์
o นับเป็นความจริงที่ว่าการเชื่อมโยงดวงดาวเข้ากับชีวิตของมนุษย์ในวิชาโหราศาสตร์นั้น
ยังไม่สามารถพิสูจน์ให้เห็นได้ชัดเจน
o มีคำถามเกิดขึ้นว่า ถ้าโหราศาสตร์สามารถดูอนาคตได้จริง
ชีวิตเราจะมีเสรีภาพหรือไม่หรือเราถูกกำหนดมาให้เป็นแบบนี้ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้
o ปัญหาเรื่องจักรวาลวิทยา
(แนวคิดและทฤษฎีว่าด้วยการแสวงหาความจริงเกี่ยวกับโลกและจักรวาลในมิติต่างๆ )
คือปัจจุบันความก้าวหน้าเรื่องดาราศาตร์ไปไกลกว่าเดิมมากนัก
แต่ในโหราศาสตร์ยังคงใช้หลักการของปโตเลมีอยู่
กล่าวคือใช้ระบบจักรวาลที่มีโลกเป็นศูนย์กลาง
และบางระบบก็ใช้ดวงอาทิตย์เป็นศูนย์กลาง (เป็นส่วนน้อย)
o ปัจจุบันมีการใช้ดาวดวงใหม่ๆ
ที่ค้นพบมาร่วมทำนายด้วยในบางศาสตร์พยากรณ์
o ปัญหาเรื่องการทำนายอนาคต
- เวลามีอยู่จริงและเป็นอิสระจากสิ่งต่างๆ ในเอกภพ
- เวลาเป็นเพียงชื่อที่เราสมมติขึ้นสำหรับความเปลี่ยนแปลงของสิ่งต่างๆ
- การเดินทางไปอนาคตนั้นเป็นไปได้แต่เวลาเดินทางทิศทางเดียว
เราไม่สามารถไปแอบดูอนาคตแล้วเดินทางย้อนกลับมาอดีตได้อีก เมื่อไปถึงอนาคต
อดีตก็หายไป กล่าวได้ว่ามีเพียงเวลาปัจจุบันเท่านั้นที่เลื่อนไหลไป
- สตีเฟนฮอว์กิง กล่าวว่าการเดินทางมาอดีตเป็นไปไม่ได้เพราะมันเกิดแล้วเปลี่ยนแปลงไม่ได้
เหมือนที่เราไม่เคยเห็นแก้วแตกแล้วกลับมาต่อได้อีก ตามกฎข้อสองของเทอร์โมไดนามิค
คือความไร้ระเบียบจะเพิ่มขึ้นตามเวลาเสมอ
- เวลาในวิทยาศาสตร์จึงเหมือนกับศาสนาพุทธคือ เป็นเพียงสิ่งสมมติ
- โหราศาสตร์สามารถบอกอนาคตได้
มิใช่เป็นการรู้เหตุการณ์ในอนาคต เพราะอนาคตยังไม่มี
เป็นเพียงการทำนายผลที่จะเกิดจากเหตุที่รู้
ยิ่งรู้เหตุและปัจจัยแวดล้อมมากเพียงใดก็จะได้ผลใกล้เคียงมากเท่านั้น
เหมือนนักเศรษฐศาสตร์ นักพยากรณ์อากาศ ซึ่งมีผิดมีถูก
o ปัญหาเรื่องเจตจำนงเสรีกับนิยัตินิยม
- ความเชื่อที่ว่าโหราศาสตร์ทำนายอนาคตได้แล้ว
เรายังมีสิทธิเลือกกระทำอยู่หรือไม่
- พฤติกรรมมนุษย์ดำเนินไปตามกฎเกณฑ์ของธรรมชาติ
แม้จะมีสิทธิเลือกแต่ก็ยังคงอยู่ในกฎนี้
- ความมุ่งหมายของมนุษย์จึงถูกกำหนดตายตัวจาก
ความมุ่งหมายในอดีต อุปนิสัย ความโน้มเอียง ความเคยชิน การศึกษาอบรม
ธรรมเนียมประเพณี มนุษย์สามารถทำนายอนาคตได้โดยดูสิ่งเหล่านี้
ยิ่งพิจารณาละเอียดยิ่งเห็นชัดเจน
- ระบบนิยัตินิยมเชื่อว่า
ความรู้สึกว่ามีเสรีภาพนั้นเป็นความเข้าใจผิด เพราะไม่มีอะไรในจักรวาลมีอิสรภาพ
การเข้าใจผิดคิดว่ามีอิสรภาพนั้น
เพราะไม่เข้าใจสาเหตุอันเป็นตัวการกำหนดพฤติกรรมของตนเอง
- ไม่มีสิ่งใดปฏิเศษแรงผลักดันของสิ่งแวดล้อมได้
ทุกอย่างย่อมเป็นไปตามกฎธรรมชาติ คือ การถูกกำหนดโดยสิ่งอื่น
- ในตะวันตกค่อนข้างเชื่อในเรื่องเจตจำนงเสรี ว่ามนุษย์ยังคงมีสิทธิเลือก
แต่สิ่งที่เราควรยึดถือคือทางสายกลางตามหลักศาสนาพุทธ เรารู้ว่าอนาคตเกิดจากอดีต
เราทำนายอนาคตได้จากอดีต เพราะฉะนั้นเราก็จัดการปัจจุบันให้ดีเพื่อที่อนาคตจะได้รับผลที่เกิดตามกฎธรรมชาติที่ว่า
ผลของสิ่งหนึ่งก็ย่อมเกิดจากเหตุสิ่งหนึ่งเสมอ
- เราไม่สามารถคาดหวังผลตอบแทนที่ดีทันทีทันใด
จากการกระทำที่เราเพิ่งเริ่มทำ และอย่าลืมว่ายังมีปัจจัยเรื่องอุปนิสัย
จิตใต้สำนึก ความรู้ การศึกษา สภาพแวดล้อม
ที่เราอาจรู้แต่ยากที่จะควบคุมเปลียนแปลงมันอย่างทันทีทันใด
- คนเรานั้นสามารถทำอะไรได้ตามที่เขามุ่งมาดปราภถนา
แต่เขาไม่สามารถมุ่งมาดปราถนาได้ตามที่เขามุ่งมาดปราภถนา
- ดวงดาวเป็นเพียงเครื่องบอกแนวโน้ม
แต่ไม่ได้ควบคุมบังคับให้เกิดเหตุการณ์ต่างๆ
- เมื่อความรับรู้หรือประสบการณ์ของเราไม่สามารถอธิบายสิ่งนี้ได้
คำถามก็คือเราควรหรือไม่ที่จะปฏิเศษว่าไม่มี
o โหราศาสตร์
เป็นวิชาที่ศึกษาอำนาจลึกลับที่ผลักดันจิตใจของมนุษย์แต่ละคน
หรือศึกษาถึงสภาพจิตใจว่าอะไรเป็นสาเหตุให้เขามีความรู้สึกนึกคิด มีนิสัยสันดาน
และโดยความรู้สึกและนิสัยนี้เขาจะแสดงออกมาโดยการกระทำลักษณะใด เป็นผลเสียหรือดีอย่างไร
o เมื่อเราทราบความเป็นไปของชีวิต
จะช่วยให้เรามีความมั่นใจและอิสระมากขึ้น เพราะเมื่อพบสิ่งคาดไม่ถึงมากระตุ้นชีวิต
เมื่อเรารู้ล่วงหน้าเราก็พร้อมรับมือด้วยสติ
สรุปจากหนังสือคิดใหม่ โหราศาสตร์หลังนวยุค (กันยาวีร์ สัทธาพงษ์)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น