กระบวนทรรศน์ทั้ง5 สื่อให้เห็นแนวคิดที่พัฒนาจากอดีตสู่ปัจจุบัน
1. กระบวนทรรศน์ยุคดึกดำบรรพ์เริ่มตั้งแต่มีมนุษย์จนถึงทุกวันนี้
- คิดว่าทุกอย่างมาจากน้ำพระทัยของสิ่งศักดิ์สิทธิ์เบื้องบน
- เคารพสักการะเบื้องบนด้วยความหวังว่าจะคุ้มครองให้พวกเขาปลอดภัยจากภัยธรรมชาติ
- โลกไม่มีกฏเกณฑ์แล้วแต่น้ำพระทัยเบื้องบนเรียกโลกแบบนี้ว่า กลีภพ (chaos)
- ความเชื่อนี้ช่วยลดความเคร่งเครียดต่อความเกรงกลัวภัยธรรมชาติ
2. กระบวนทรรศน์ยุคโบราณหนึ่งพันปีก่อนค.ศ. จนถึงปัจจุบัน
- คิดว่าทุกอย่างมาจากกฎธรรมชาติ
- เกิดความไม่พอใจกับความรู้เท่าที่รู้มองเห็นคำถามต่อไปและต้องการหาคำตอบที่พอใจให้ได้
- ศาสตร์ความรู้หลายอย่างเกิดในยุคนี้เช่น วิทยาศาสตร์ โหรศาตร์ ปรัชญา สถิติ ดาราศาสตร์
- ใช้ศรัทธาต่อศาสนาเพื่อดำรงอำนาจของตนและเสริมประกาศิตให้กับกฎระเบียบต่างๆ
- โหราศาสตร์มีจุดเริ่มต้นในยุคนี้ด้วยการกำหนดดวงดาวบนแผ่นฟ้าเป็นเทพเจ้าที่ควบคุมสิ่งต่างๆบนโลกมนุษย์
3. กระบวนทรรศน์ยุคกลางตั้งแต่ค.ศ.1 จนถึงปัจจุบัน
- คิดว่าทุกอย่างที่กระทำในโลกนี้ก็เพื่อส่งผลดีในโลกหน้า
- เริ่มจากคำสอนของศาสนาที่มีบทบาทสูงสอนให้ทำดีเพื่อรอรับผลในภายภาคหน้า ซึ่งอาจเป็นโลกหน้า
คนมีความศรัทธาต่อศาสนามากในยุคนี้
คนมีความศรัทธาต่อศาสนามากในยุคนี้
- เป็นยุคมืดของโหราศาสตร์ถูกกำจัดและต่อต้านเป็นอย่างมาก
4. กระบวนทรรศน์นวยุคตั้งแต่ประมาณค.ศ. 1500 ถึงทุกวันนี้
- คิดว่าทุกอย่างที่เป็นความจริงต้องสามารถพิสูจน์ได้ด้วยระบบวิทยาศาสตร์
- เป็นการมองหาสาเหตุและเหตุผลที่ช่วยให้พวกเขาพบกับความสุขในโลกนี้โดยไม่ต้องรอให้ถึงโลกหน้า
ความสุขที่ได้จึงเป็นความสุขเชิงวัตถุนิยมความสุขอย่างหยาบที่ตอบสนองความต้องการทางกายเท่านั้น
- ความรู้เชิงวัตถุนิยมแบบไม่สามารถพิสูจน์ได้ด้วยวิทยาศาสตร์ยังคงมีผลในยุคนี้
เช่น ศาสนา ปรัชญา โหรศาสตร์ แต่มีการอธิบายแบบวิทยาศาสตร์มากขึ้น
5. กระบวนทรรศน์หลังนวยุคตั้งแต่ค.ศ. 1975 ถึงปัจจุบัน
- คิดว่าความรู้ทุกอย่างมีประโยชน์และต้องมองคิดด้วยวิจารญาณที่ต้องวิเคราะห์ ประเมินค่า และประยุกต์ใช้
- ลบแนวความคิดเดิมที่ว่าความรู้ที่เป็นจริงต้องพิสูจน์ได้ด้วยกฎเพราะความรู้เดิมไม่สามารถให้ความสุขที่แท้จริง แต่กลับจะสร้างปัญหาให้กับสังคม
สรุปจากหนังสือคิดใหม่โหราศาสตร์หลังนวยุค (กันยาวีร์ สัทธาพงษ์)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น