30 พฤษภาคม 2556

ปฏิทินจีน

ปฏิทินจีน


Chinese Calendar




ปฏิทินจีนคืออะไร ปฏิทินจีนคือปฏิทินของชาวจีนที่น่าจะเป็นปฏิทินเดียวในโลกที่มีการใส่รายละเอียดต่างๆเข้าไปมากมาย ปฏิทินจีนเข้ามามีอิทธิพลต่อสังคมไทยมานาน นานจนไม่ค่อยมีคนรู้หลักการที่ถูกต้องว่ามีที่มาที่ไปอย่างไร และส่วนไหนที่ใช้ไม่ได้ ส่วนไหนยังสามารถใช้ได้อยู่ บทความนี้เขียนและเรียบเรียงขึ้นเพื่อความเข้าใจที่ถูกต้องสำหรับผู้ที่เข้ามาอ่านข้อมูล และผู้ที่ต้องการหาฤกษ์คลอดบุตร หาวันคลอดลูก หาวันผ่าคลอด จะได้สบายใจและมีความเข้าใจมากขึ้นในเรื่องของปฏิทินจีน




จากคำกล่าวของ Master Mas ที่คนไทยรู้จักในชื่อซินแซไฮเทค

“Auspicious Date in Chinese Calendar is not always Auspicious…!!!

In the auspicious date, somebody may get bad luck, get accident or lost money.

Also for the in-auspicious date, someone may have good luck or make big money.

The real auspicious date must consider the matching to house and person's birth date.

We call “Complete Set of Theories for Feng Shui Systems”.

“ฤกษ์วันธงชัยไม่ได้ดีเสมอนะครับ…

วันเหล่านี้ก็มีคนโชคร้าย ถูกจี้ปล้น เจออุบัติเหตุ

วันอุบาติ ก็มีคนถูกหวย หรือเล่นหุ่นได้เงิน

การดูฤกษ์ที่ถูกต้องก็คือ ต้องหาวันที่ถูกกับทิศทางของบ้าน และเข้ากับดวงของคน

อยากจะแนะนำว่า ใครจะขึ้นบ้านใหม่ ให้เชิญผู้เชี่ยวชาญไปดูให้ดีกว่า

เพราะไม่ใช่แค่หาฤกษ์อย่างเดียว ทุกอย่างจะดีหมด

แต่จะต้องดูฮวงจุ้ยด้วยว่าชัยภูมิภายนอกและภายใน มีปัจจัยไหนที่จะส่งผลร้านในระยะยาวบ้าง

จะได้แก้ไข ปรับปรุงไปเลยทีเดียว ซินแสที่เก่ง ไม่ต้องทุบ รื้อ

และไม่ต้องแนะนำให้ติดยันต์ ตั้งเจ้าที่ เสือคาบดาบ หรือวัตถุมงคลใดๆ

แต่สามารถใช้สิ่งที่มีอยู่แล้ว เช่น โต๊ะ ตู้ เตียง พัดลม โคมไฟ น้ำพุ ต้นไม้

วางให้ถูกที่ ถูกตำแหน่ง หันโต๊ะทำงาน หัวเตียง ให้ถูกกับดวง เลือกสีให้เหมาะสม

แล้วก็หาฤกษ์ที่เหมาะสมมาเป็นกุญแจจุดกระตุ้นพลังแห่งความเป็นมงคลมาเปิดฟ้าให้คนในบ้านได้รับพลังสูงสุด…


จัดฮวงจุ้ยที่ถูกต้อง บ้านต้องดูสวย โมเดิร์น โปร่งสบาย ลมพัดไหลเวียนดี เย็นสบายทั้งบ้าน”

ปฏิทินจีน

เพื่อยืนยันความผิดพลาดของปฏิทินจีนที่ชาวไทย90%นิยมใช้กันแม้ไม่รู้หลักการและความหมาย

ขอนุญาติคัดลอกบทความข่าวที่สรุปนี้มาจาก kapook.com

“อาจารย์ธนากร ตันอาวัชนการ ซินแสชื่อดัง ชี้ ปฏิทินจีนที่ใช้ในประเทศไทยคำนวณผิดพลาด โดยสลับจำนวนวันในเดือน 4 และ เดือน 5 ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อฤกษ์มงคลที่เปลี่ยนจากดีไปเป็นร้าย

จากกรณีที่มีข่าวว่า ปฏิทินจีนปี 2556 ที่ใช้กันในประเทศไทย อาจมีความคลาดเคลื่อน เนื่องจากมีการสลับวันในเดือน 4 และเดือน 5 ของจีน ดังนั้นเมื่อวานนี้ (19 มีนาคม) อาจารย์ธนากร ตันอาวัชนการ ซินแสฮวงจุ้ยนักคำนวณชื่อดัง จึงได้ออกมาเปิดเผยว่า ตนได้รับแจ้งจากพระจีนตามวัดต่าง ๆ ถึงข้อสงสัยว่า ปฏิทินจีนที่ใช้ในประเทศไทยและทั่วโลกในปี 2556 อาจจะคลาดเคลื่อน ซึ่งปฏิทินที่มีปัญหา คือ ปฏิทินที่วัดจีนส่วนใหญ่ในประเทศไทยใช้กัน

โดยจำนวนวันของปฏิทินจีนส่วนใหญ่ระบุจำนวนวันว่า เดือนที่ 4 มี 29 วัน ส่วนเดือนที่ 5 มี 30 วัน แต่ซินแสและผู้เชี่ยวชาญเรื่องดวงจะยึดปฏิทินของอาจารย์ ชัยเมษฐ์ เชี่ยวเวชกัน ซึ่งปฏิทินนี้ระบุว่า เดือนที่ 4 มี 30 วัน และเดือนที่ 5 มี 29 วัน เท่ากับว่า ถ้าซินแสหรือหมอดูให้ฤกษ์ระหว่างนี้ไปผิดทั้งหมด ก็อาจส่งผลกระทบมหาศาลต่อฤกษ์ยามเดือน 4 ต่อเดือน 5 ในทางจีน นั่นคือ ระหว่างวันที่ 8 มิถุนายน จนถึงวันที่ 8 กรกฎาคม ของสากล ซึ่งเชื่อว่าการเคลื่อนดังกล่าว มาจาก 2 เหตุผล คือ

1. ปฏิทินนี้วางวันสลับกันหรือคัดลอกมาผิด

2. การคำนวณคิดเศษส่วนของวันในทางจีนของปฏิทินนี้ผิดพลาด

ซึ่งกรณีนี้ถือเป็นเรื่องใหญ่และต้องเร่งแก้ไขโดยดูว่าเกิดจากเป็นประเด็นใดกันแน่

ด้าน พระอธิการเย็นจุง เจ้าอาวาส วัดจีนประชาสโมสร จ.ฉะเชิงเทรา บอกว่า หากเรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องจริง จะกระทบกับศาสนพิธีต่าง ๆ ของวัดจีน พร้อมแสดงความเป็นห่วงผู้รู้ที่ให้ฤกษ์ต่าง ๆ ว่า อาจจะเสี่ยงทำให้ชีวิตคนเสียหายโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ทั้งนี้ ได้เริ่มสังเกตถึงความผิดปกติ เมื่อมีญาติโยมมาให้ช่วยดูฤกษ์เนื่องจากเดือน 4 และ 5 เป็นเดือนที่ให้ฤกษ์แต่งงานดี ปรากฏว่าพอดูปฏิทินที่มีในวัด เมื่อเทียบกับปฏิทินอื่น ๆ รู้สึกว่าแปลก ๆ จึงสอบถามไปยังผู้มีความรู้มากมาย โดยเฉพาะ อาจารย์ธนากร ปรากฏว่า พบความคลาดเคลื่อนของปฏิทินที่มีอยู่

พระอธิการเย็นจุง กล่าวอีกว่า อยากให้ผู้ที่มีความรู้ออกมาชี้ชัดว่า ควรยึดวันของปฏิทินใดเป็นหลัก เนื่องจากตนก็ไม่อยากมีตราบาปในการให้ฤกษ์ผิด ๆ แก่ญาติโยม จนทำให้ชีวิตคนผิดพลาด ที่ผ่านมาปฏิทินเคยผิดเพี้ยนมาหลายครั้ง แต่ครั้งนี้ผิดแบบมโหฬาร ผิดเป็นวัน เดือนมิถุนายนก็ผิดทั้งเดือน จึงอยากให้ผู้รู้ออกมาให้ความรู้ว่า เรื่องนี้เป็นมาอย่างไร”



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น